ชื่อองค์ความรู้  : บทเรียนจากการดำเนินคดีหมายเลขดำที่ ส.๑/๒๕๕๖ คดีหมายเลขแดงที่ ส.๑๕/๒๕๕๘

วันที่ เดือน พ.ศ. ที่เผยแพร่ : –
 

ผู้เชี่ยวชาญ/ผู้รู้/หน่วยงานเจ้าของความรู้

ชื่อ-นามสกุล : นายประมวล เฉลียว

นางสาวสุวลักษณ์ จูสวัสดิ์

กลุ่มงาน : กลุ่มนิติการ
กอง :

โทรศัพท์ :

0 2265 6635

E-mail : legalonep@gmail.com

อธิบายความเชื่อมโยงขององค์ความรู้นี้กับภารกิจของสำนัก/กอง/กลุ่ม

การกำหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการซึ่งต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามมาตรา ๔๖ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมออกประกาศกำหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการซึ่งต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยไม่สอดคล้องกับมติของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นองค์กรแนะนำ อันเป็นเหตุให้ศาลปกครองระยองตัดสินว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๒) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒

Key Words ขององค์ความรู้

#การใช้ดุลพินิจของฝ่ายปกครอง จะต้องสอดคล้องหรือเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดหรือให้อำนาจไว้ด้วย

สาระสำคัญขององค์ความรู้

 

๑.      ประชาชนในเขตพื้นที่จังหวัดระยองได้ยื่นฟ้อง คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อขอให้พิจารณาแก้ไขประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภท ขนาด และวิธีปฏิบัติสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชนจะต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๕๓ ลงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๓ โดยให้ระบุ การผลิตอุตสาหกรรมถ่านโค้ก เป็นประเภทที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามประกาศดังกล่าวด้วย

๒.      คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ได้มีมติในคราวการประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๖ เห็นชอบกับการกําหนดให้อุตสาหกรรมผลิตถ่านโค้ก ทุกขนาด เป็นโครงการหรือ กิจการที่อาจมีผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ และมอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการจัดทำร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำหนดประเภทและขนาดของอุตสาหกรรมผลิตถ่านโค้ก ทุกขนาด เป็นโครงการหรือกิจการที่อาจมีผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้าน

คุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ และนําเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนดําเนินการออกประกาศและประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
๓.        เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก่อนที่จะมีการเสนอให้ลงนามในร่างประกาศตามข้อ ๒ และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเชื่อว่าการประกอบอุตสาหกรรมผลิตถ่านโค้ก เพียงอย่างเดียวจะไม่ยังเกิดขึ้น หากผู้ประกอบการมีความจำเป็นต้องใช้ถ่านโค้กในการประกอบกิจการจะสั่งซื้อจากต่างประเทศ ประกอบกับยังไม่เคยประกาศกำหนดให้เป็นโครงการหรือกิจการที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมมาก่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในขณะนั้น จึงได้ใช้ดุลพินิจให้ออกประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติ และแนวทางการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ฉบับที่ ๖ (พ.ศ. ๒๕๕๗) ลงวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ โดยกำหนดให้อุตสาหกรรมผลิตถ่านโค้ก ทุกขนาดเป็นโครงการหรือกิจการที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั่วไป และไม่ได้ออกประกาศกำหนดให้อุตสาหกรรมผลิตถ่านโค้ก เป็นโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ในเมื่อการดำเนินการกำหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามมาตรา ๔๖ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นอำนาจผูกพัน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะต้องทำตามคำแนะนำของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ หากไม่เห็นด้วยกับคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติจะต้องเสนอให้มีการทบทวน หรือขอให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติให้ข้อเสนอแนะในเรื่องดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง แต่ไม่สามารถใช้ดุลพินิจในการกำหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้เอง โดยไม่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่เป็นองค์กรแนะนำ จึงทำให้การออกประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติ และแนวทางการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ฉบับที่ ๖ (พ.ศ. ๒๕๕๗) ลงวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ ไม่มีผลให้ข้อพิพาทระงับสิ้นไป จึงเป็นเหตุให้ศาลปกครองระยองพิพากษาให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องดำเนินการแก้ไขประกาศกำหนดให้อุตสาหกรรมผลิตถ่านโค้ก เป็นประเภทโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภท ขนาด และวิธีปฏิบัติสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจหรือเอกชน จะต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๕๓

ไฟล์และสื่อประกอบ

Comments are closed.